Welcome to my Blog::GND!: 2006

Sunday, December 24, 2006

Paradox Rate X ...จะแต่งเพลงเพราะนั้น ไม่ต้องคิดให้ยากครับ

"รักเราอาจดูเหมือนมันเป็นเพียงแค่สิ่งเลือนลาง
สักวันหนึ่งทางของเรามันคงต้องจากกันไป
แต่ยังได้รักกันเพียงครั้งหนึ่ง
ขอบคุณที่เธอให้ฉันรู้จัก กับความรักที่มีค่ากว่ารัก
รักเราอาจดูเหมือนมันเป็นเพียงแค่สิ่งปลอมๆ
แค่เงาที่เคียงข้างกายแม้จะสัมผัสเพียงใด
แต่ก็ยังรักยังคงรู้สึก
ขอบคุณที่เธอให้ฉันรู้จัก กับความรักที่คุ้มค่ากว่ารัก
ไม่เลิศเลอไม่ยิ่งใหญ่ไม่ความหมายใดสำคัญกว่าครั้งหนึ่งเรารักกัน"

นี่เป็นเนื้อเพลง "เงา" จาก Paradox อัลบั้ม X ครับ และทำนองเพลงเป็น
acoustic ที่เรียบง่ายเล่นกันอยู่ใน tab E ไหลไปเรื่อยๆครับ เป็นเพลงที่ฮุค
เข้ากับตัวผมอย่างจังเลยครับ เพราะความเรียบง่ายแต่มีศิลปะอย่างรุนแรง
ผมฟังเพลงนี้รอบแรกเสร็จ ผมคิดในใจเลยครับว่า "จะแต่งเพลงดีๆก็ทำได้
ทำไมไม่ทำ" เพราะมันยากครับ... การจะแต่งเนื้อเพลงให้สอดรับกับทำนอง
ดีๆนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ และมันไม่ได้มาได้วง่ายๆเหมือนกระดิกนิ้ว
สั่งซะด้วยสิครับ ต้องอาศัยประสบการณ์และมุมมอง อารมณ์ จังหวะ
ทุกอย่างต้องสอดประสานกันเพื่อสร้างชิ้นงานที่จะคงอยู่ตลอดไปในใจ
เราได้ครับ เพลงเพราะทุกเพลงที่ผมชอบ เป็นเพลงที่มี melody เรียบง่าย
ไม่ยากอะไร แต่สื่อถึงสิ่งที่แฝงอยู่ในองค์รวมของตัวเพลง เพราะเมื่อมัน
ประสานกันออกมาเป็นบทเพลงแล้ว... สุดยอดครับ

ขอฝากไว้หน่อยนะครับ ผมเชื่อแบบนี้จริงๆ
"ดนตรี คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยได้สรรค์สร้างกันมา"

Wednesday, December 20, 2006

Nodame Cantabile... ความงดงามของดนตรีอันเหนือชั้น!!

Nodame Cantabile หรือชื่อไทยว่า "วุ่นรักนักดนตรี" ผลงานโดย นิโนมิยะ โทโมโกะ
ในตอนนี้กำลังเป็นทีวีซีรี่ย์เรตติ้งกระฉูดอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ คาดว่าไม่นานคงได้เข้าบ้านเรา
เรื่องราวความรักของนักศึกษามหาลัยดุริยางค์ศิลป์ โนดะ (โนดาเมะ) เมกุมิ ที่เธอมี
ให้ต่อรุ่นพี่ในสาขาเปียโนของเธอ จิอากิ ชินอิจิ โดยที่จิอากิเป็นเทพบุตรสุดหล่อ
มาดเนี้ยบ เพอร์เฟกค์ไปหมดซะทุกอย่าง ส่วนโนดาเมะ เธอผู้มีชีวิตอยู่กับขยะ...
ห้องที่ไม่เคยคิกจะเก็บ ความซกมกเหนือคำบรรยาย แต่เธอซ่อนเร้นไว้ซึ่งความ
สุดยอดของลีลาการดีดเปียโน ซึ่งได้นำพาให้ทั้งคู่มาพบกัน... เรื่องราวต่อจากนี้
ไปตามหาอ่านจากการ์ตนเอาเองนะครับ หรือไม่ก็รอให้ Sub^Nai ของผมทำ
v.anime ที่กำลังจะเริ่มฉายกลางเดือนหน้าก็ได้นะครับ งานนี้ผมจองขอทำ
เลยล่ะครับ อ่านตอนแรกนี่ รีบเปิด youtube ดูซีรี่ย์ทันทีเลยครับ สนุกมากๆ
เพลงที่นำมาเล่นในเรื่องก็มีแต่คลาสสิกขั้นเทพทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นงาน
ของบีโธเฟน โมซาร์ท บรามห์ส โชแปง ราชมานอฟ และอีกหลายๆท่าน
ตัวละครแต่ละตัวก็มีเสน่ห์ให้หลงใหล ทั้งความเท่โคตรๆของจิอากิ ความ
หลุดเอี้ยๆของโนดาเมะ ความหื่นจนหูดับตับไหม้ของสเตรซมันน์ และ
ความสนุกของมุขตลกที่เรื่องนี้บรรจงเล่น ผมแนะนำอย่างสุดฤทธิ์ให้
หามาอ่านเลยครับ

แล้วเจอกันนะคร้า้บ กะอึ๋ยลลลล์ กึ๋ยๆๆ

Sunday, December 17, 2006

When you listen to something, will you?

ตอนนี้ผมกำลังนั่งฟัง OST ของ Nodame Cantabile Series อยู่ครับ
มีเพลงนึงที่ตอนนี้เปิดซ้ำแล้วซ้ำอีก คือ 美しきタ暮れ ครับ เพลงนี้
เป็นเพลงบรรเลงที่ให้อารมณ์เศร้าแบบมียิ้มที่มุมปากเล็กน้อย อาการ
ของคนที่เตรียมใจไว้รับความเศร้า เหมือนกับตอนที่รำลึกอดีตที่ผิดพลาด
ของตัวเอง... เำพลงนี้ให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ ผมบรรยายอารมณ์
ออกมาให้พยายามใกล้เคียง แต่ก็เข้าใจว่าไม่ตรงตามที่รู้สึกจริงๆ เพราะ
ตัวผมเองก็อธิบายถึงความรู้สึกนี้ไม่ได้เช่นกัน ...ไม่เข้าใจน่ะครับ แต่กลับ
รู้สึกว่าอารมณ์นี้คอยอยู่กับผมเสมอมา ฟังเพลงนี้แล้วอยากออกไปข้างนอก
แล้วนั่งมองท้องฟ้าไปเรื่อยๆ จนอารมณ์แปรผัน ความรู้สึกนี้... ผมอยากแกะ
ออกมาเป็นดนตรีแล้วจดจำไว้ คงเป็นเพลงที่เหมาะกับการเล่นในยามที่
อยู่คนเดียว เหงาหงอย... นั่นสินะครับ คงเป็นความรู้สึกนี้กระมังที่ใช่
เพลงนี้ให้ความรู้สึกเหงาเศร้าใจ ที่คนเราต้องเวิ้งว้างอยู่กับตัวเอง โดยไม่
มีใครมาดูแลอยู่ข้างกาย... มิน่าล่ะ... ผมถึงได้ติดใจในเพลงนี้

Tuesday, December 12, 2006

Steve Jobs is the best, and he truly is!

ในสองวันที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของ
สุดยอดดาราแห่งวงการเทคโนโลยี "สตีฟ จ๊อบส์" CEO ของบริษัท
Apple และ Pixar (ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นของ Disney ไปแล้ว) ชื่อว่า
"iCon: Steve Jobs"

ด้วยความสนใจในผลิตภัณฑ์ของ apple มาตั้งแต่ตอนกลางปี (เพราะ
อิทธิพลของเจ้าหัวฟู เพื่อนผม) ผมเริ่มหลงใหลการรังสรรค์อันสวยงาม
ทั้งด้านรูปลักษณ์และแนวความคิดในเทคโนโลยีของ Mac ผมก็เริ่มมี
ความอยากจะซื้อมาใช้บ้าง ความคิดในตรงนี้แรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ
ตอนที่ผมได้ดู Keynote:WWDC 2006 ที่เคยได้บล๊อกไว้ในนี้ ความ
ประทับใจที่ผมมีนอกจากนวัตกรรมของ Apple แล้ว ผมยังติดใจในความ
สามารถที่ได้สะกดอารมณ์ผู้ชมงานไว้ได้ของสตีฟ ตลอดเวลาที่เขาแนะ
นำผลิตภัณฑ์ เขาดูมีวาทศิลป์และเสน่ห์อันน่าดึงดูดให้คนหลงใหลบูชา
ผมจึงเริ่มชอบใจภาพลักษณ์ของสตีฟมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมได้มีโอกาสซื้อ
หนังสือเล่มนี้มาอ่าน เพื่อทำความรู้จักกับคนผู้นี้ให้มากขึ้น ในหนังสือเล่มนี้
ได้ครอบคลุมประวัติการทำงานของสตีฟไว้ตั้งแต่เขาเริ่มทำงานในร้านขาย
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ตอนมัธยม ได้ทำงานในอะตาริ จนได้ก่อตั้ง Apple ร่วม
กับ"สตีฟ โวสนิแอก" โคตรอัจฉริยะทางอิเลกทรอนิกส์ ซึ่งผลงานเขย่าโลก
ของ apple ในตอนนั้นก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ Apple II ครับ จนถึงช่วงที่
สตีฟถูกบีบให้ออกไปจาก Apple ที่เขาร่วมสร้างมาเพราะนิสัยส่วนตัวที่เป็น
จอมเผด็จการในระดับที่หลงอำนาจเลยทีเดียว การเริ่มต้นใหม่ที่ไปไม่รอดกับ
NeXT ความโชคดีที่ได้ไปรับ Pixar มาไว้จากจอร์จ ลูคัส จนปัจจุบัน Pixar
เป็นสตูดิโอที่ทำเงินรายได้ในภาพยนตร์สูงสุดตลอดกาลโดยเฉลี่ยต่อเรื่อง
การกลับมายัง Apple และได้ทำให้บริษัทที่มีเสน่ห์นี้กลับมายืนได้ การได้กลาย
มาเป็นผู้ขีดเส้นทางเดินให่้กับอุตสาหกรรมดนตรีด้วย iPod และ iTunes ชายผู้
ปัจจุบันมีอายุ 51 ปีผู้นี้ยังไม่หยุดนะครับ

ผมชอบใจที่ในหนังสือเล่มนี้เขียนให้ข้อมูลของบุคคลสำคัญที่เป็นหุ้นส่วนและ
คู่แข่งทางการค้าของสตีฟ และให้รายละเอียดที่ลึกพอที่ทำให้ผู้อ่านรู้ว่า
จริงๆแล้ว อะไรมันเป็นอะไรกันแน่ สตีฟเป็นคนที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด แม้ว่าเขา
จะมีระบบการดูแลงานที่ทำให้ผู้ทำงานด้วยแทบอยากจะมุดโต๊ะหนี ลาออกกัน
แทบทุกคน และมีเล่ห์เหลี่ยมที่ทำให้คู่แข่งของเขาเกลียดชังเขาอย่างมาก
แต่เขาก็เป็นผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ขอนับถือจากใจ
เลยครับ สตีฟ

Saturday, December 09, 2006

tadaima... are you really sure?

หายหัวไปนานจนตัวเองคิดถึง แม้จะรู้ว่า blog บ้านี่ จะไม่มีใครเข้าเยี่ยมชม
นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันอยู่ที่พฤติกรรมของคนทำ blog ที่ขี้เกียจอย่าง
ร้ายกาจ... เป็นปัญหาที่ผมอยากแก้ไขขัดเกลามานานแสนนาน แต่ไม่เคยทำ
ได้เสียที ผมพบว่าการที่ตัวผมจะทำอะไรได้เรื่อยๆนั้น สิ่งมี่จะทำนั้นต้องมี
ความน่าสนใจกับผม หรือพูดง่ายๆว่าทำไปแล้วมันสนุก เพราะถ้าไม่สนุก...
ทำไปมันก็ไร้ความหมายและคุณค่าครับ
ตัวผมใช้ชีวิตมาจนถึงวันนี้ ในช่วงที่ไม่ได้อัพ blog ก็มีเรื่องมากมายวนเวียน
ผ่านเข้ามา ทั้งเรื่องที่ผมกลับไปทำซับอีกครั้ง ทั้งเรื่องงานโปรเจ็คที่งวดเข้ามา
ทุกขณะ เรื่องที่ผมยังคงทำใจไม่ได้ เรื่องที่ผมเป็นคิดว่าตัวเองมีปมด้อย ทั้งๆที่
ถ้ามองในมุมนึง มันคือปมเด่น... แต่ถึงกระนั้น โลกก็ยังคงดำเนินไปอย่างที่มัน
เป็น ความก้าวหน้าของมนุษยชาติที่เดินหน้าไปโดยไม่รอให้ชายคนนี้รับรู้ถึงมัน
ความฝันที่เลือนลาง เพราะได้เห็นถึงขีดจำกัดในความสามารถของตัวเอง...
ใช่ครับ... ผมมองเห็นเพดานของตัวเองแล้วครับ ผมสมควรใช้สมองน้อยๆ
ตรึกตรองให้ออกว่า เพดานเป็นสิ่งที่จิตใจผมสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงตัวเอง
ไม่ให้ชกทะลุเพดานขึ้นไปพบกับระดับใหม่ของชีวิต ผมจมปลักอยู่กับห้องแคบๆ
ที่เรียกว่า"ความกลัว"อย่างโงหัวไม่ขึ้น ผมกลัวมันไปซะทุกอย่าง กลัวจนขี้จะ
แตกอยู่แล้วครับ ขอร้องเถอะครับ ทำให้ผมกลัวมากกว่านี้ซัก 10 เท่าซิครับ ถ้าความ
กลัวระดับนี้ ยังทำผมว้าวุ่นใจ ก็จงกลัวให้มันมากกว่านี้อีกซัก 100 เท่าไปเลยครับ
ถ้าผมยังไม่ตายไปซะก่อน... ผมคงจะเห็นอะไรชัดเจนขึ้นกระัมัง

Saturday, October 14, 2006

Where is the "crazy" leading me now?

กำลังหาคำตอบให้กับคำถามที่ตัวเองชอบผุดขึ้นมาหา ราวกับตัวเองเป็น
ผู้มีปัญญา... ยังไงหยั่งงั้น ก็เหมือนกับการนั่งฟังเพลง "The Riddle" ของ
Five for Fighting ไปจนสมองมีรอยหยักเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเส้น...
ตราบเท่าที่ผมยังคงเป็นมนุษย์ปุถุชนผู้ไม่กล้าจะ"กะล่อน"เพื่อให้ได้มาใน
สิ่งที่แตกต่าง ตราบนั้น ผมก็ยังจะใช้งานคนที่เก่งกล้ากว่่าผมไม่ได้
ใช่ครับ ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยเตือนสติให้กับผมในหลายมุมมอง ผมไม่
สามารถจะ"เลว" ในฐานะผู้นำได้มากไปกว่านี้ เพราะผมขาด "ความเชี่ย"
ที่จะทำให้ผมไปยืนอยู่เหนือชาวบ้านอย่างจริงจัง... มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
ที่ผมสูญเสีย "ความบ้า" ที่ผมเคยเสเสร้งมีมันอยู่ในตอนเป็นเด็กน้อยหน้า
เถื่อน... กับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงของสิ่งรอบตัวทีละเล็กทีละน้อย ตัวผม
นั้นก็อยากจะปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปกับชะตากรรมเป็นดั่งก้อนเมฆที่
ก่อตัวรวมกันบนฟ้า แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นฝนชุ่มฉ่ำลงมาให้เปียกปอน
เล่น... นั่นซินะครับ เส้นทางชีวิตคนเราเป็นผู้ลิขิต ใครกันที่เป็นคนก้าวขา
อาดๆไปบนแต่ละเส้นทางชีวิต... มันก็เรานี่นา...
อยากรู้จังแฮะ สิ่งที่มีอยู่ในตัวเราจะนำพาอะไรมาให้นะ ความหายนะ?
ลาภยศ? หรือเงินทอง? ... แล้วมันจะนำพามาซึ่งความต้องการในชีวิต
ขั้นเรียบง่ายสุดยอดดั่งเช่น แฟนสาวที่จะเข้าใจเราในแบบไม่ธรรมดา
งานการที่ไม่ผูกมัดกับคนที่เกลียด"เข็มขัด"อย่างเข้าไส้คนนี้

Tuesday, October 10, 2006

I'm back... to post again

หลังจากหายตัวไปนานเป็นเวลาเกือบเดือนจากการโพสอัพเดตที่บล๊อกแห่งนี้...
ผมกลับมาแล้วครับ

ช่วงที่หายไปทำไมไม่ยอมโพส ผมไปอยู่ไหนมา? คือช่วง ศุกร์ 15-17 กันยายน
ที่ผ่านมาผมโดนโรคท้องร่วงขั้นรุนแรงโจมตีเข้าให้น่ะครับ ถึงขั้นอ้วกออกมา
เป็นสีฟ้าเลยทีเดียวครับ เรียกว่าเน่าสุดๆเลยช่วงนั้น โหมทำโปรเจ๊คหนักเกินไปน่ะ
สิครับ ตอนนั้นรู้สึกแย่ากๆเลยครับ แต่ก็ยังไถโปรเจ็คออกมาพอพรีเซนต์ผ่านไปได้
แล้วก็เข้าสู่ช่วงของการสอบ ตอนนี้ผมก็ควรจะเริ่มอ่าน LAN&WAN ได้แล้วนะ...

ขอระบายอะไรตรงนี้ หน่อยนะครับ ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงตุ้มๆต่อมๆ จะเลิกทำซับ
หรือไม่เลิกดี ถ้ามองตามมุมมองของสิ่งที่สมควรทำในอนาคต ถ้าจะไปให้ถึง
เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ผมควรจะเลิกยุ่งกับการทำซับไปโดยถาวรซะ แต่ปัญหาก็
ยังมีอยู่ว่าผมตัดมันไม่ขาดครับ ตัดไม่ขาดจริงๆ มันยังมีเยื่อใยเหลืออยู่ ผมยัง
สนุกกับการปล่อยงานออกมาให้คนอื่นได้รับชมและมีความสุขกับงานของเรา
อยู่ครับ เรียกได้ว่าเป้นแรงบันดาลใจอันเดียวที่เหลืออยู่เลยล่ะครับ

ปล. ไว้ว่างๆ จะซื้อ Fate/Stay Night DVD มาลองชมดู ถ้ามันคุณภาพห่วย
กว่างานของ Sub^Nai ล่ะก็ จะตั้งกระทู้แฉกันจริงๆด้วยเด้อ!! แต่ถ้าดีกว่าก็จะ
ตั้งกระทู้สรรเสริญให้อีกต่างหาก ฮ่าๆๆๆ

ปล2. ถ้ามันห่วยมาก ภายใน 5-10 ปีผมจะเข้าเทกโอเวอร์ บริษัท TIGA มัน
ซะเลยก็แล้วกัน มีแผนอยู่แล้ว

Wednesday, September 13, 2006

My new Headphone... 'Genius'!

เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าหูฟังใหม่ที่น้องตั้มไปซื้อมาจาก ซีคอน มันสุดยอด
อะไรหรอกนะครับ เพียงแค่ยี่ห้อของมันคือ 'genuis' เท่านั้นเอง ขณะนี้กำลัง
ทำการทดสอบอยู่ครับ ให้เสียงอยู่ในระดับโอเคครับ (อันเก่าให้เสียงทุ้มดีกว่า
นี้) แต่ตัวนี้ได้ขนาดอันกะทัดรัดมาทดแทนครับ เพราะเป็นรูปลักษณ์แบบหนีบหู
แทนที่อันเก่าซึ่งเป็น แบบครอบหู ทำให้พลังเสียงลดลงไปตามไซส์ของลำโพง

เมื่อคืนยินดีกับเชลซีด้วยครับที่ชนะเกมแรกของ แชมป์เปี้ยนลีก ได้ พิชิตเบรเมน
ไป 2-0 ครับ แต่กระผมไม่ได้ดูหรอกนะครับ เพราะเมื่อคืนเผชิญนรกฝนไม่หยุด
ตอนจะกลับมันก้ยังไม่ยอมหยุดครับ เลยจากที่ควรจะได้กลับตั้งแต่ 3 ทุ่ม กลาย
เป็น ตี 3 ไปซะงั้น... แถมตอนกลับภนนเนี่ยน้ำท่วมเละเลยครับ ถ้าไม่ได้ท่าน ช่วย
ไปส่งให้ละก็... เฮ้อ... เพราะเหตุนี้รึเปล่านะ วันนี้เลยไม่ได้เข้าเรียน แลป lan&wan
ซะงั้น...

กะลังอยู่ในช่วงปรับปรุง code Super imposed text อยู่ครับ ยังมี bug ใน algorithm
ให้ต้องมาปรับแต่งกันหน่อยครับ เดี๋ยวจะลองดูกับหลายๆ วีดิโอดูครับ

Monday, September 11, 2006

Densha Otoko Sukoi!!!

หลังจากห่างหายจากการอัพบล๊อกไปตั้งนาน (ลืมสนิทเลยครับ) เมื่อคืน
กระผมได้ทำการอันน่ารังเกียจในมุมมองของคนทำงาน คือ เล่นไม่นอน
จนเช้าแล้วก็ต้องโดดงานเพราะง่วงเกินขีดจำกัด ... แล้วทำไมไม่นอน?
คำตอบช่างแสนเรียบง่าย... กระผมนั่ง(นอน)ดูละครทีวีญี่ปุ่น รวดเดียว
11 ตอนจบครับ เรื่อง Densha Otoko ครับ ดูเสร็จตอน 7 โมงเช้าได้มั้ง
...กรรมจริงๆ ดูไปน้ำตาไหลไม่หยุดเลยครับ ประทับใจมากจริงๆครับ
เรื่องราวของ โอตาคุ ผู้ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยซักเสี้ยว ได้ช่วย
เหลือสาวสวยจากขี้เมาเอาไว้บนรถไฟ และเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์
สุดซึ้งของทั้งคู่ครับ ตัวเอกในเรื่องนี้ ถ้ามองเผินๆก็คงจะเป็น โอตาคุ
ยามาดะ ทสึโยชิ ก็จริงอยู่ แต่ผมว่าพระเอกตัวจริงต้อง Aladdin Board
Forums กระทู้คนโสดเลยครับ เพราะเนื้อเรื่องทุกอย่างดำเนินในกระทู้นี้
หมดเลยครับ คนในกระทู้ทุกคนลุ้น ยามาดะ (Densha Otoko เป็นฉายา
ที่คนในกระทู้ตั้งให้กับยามาดะครับ) คอยแนะนำยามาดะในเรื่องการสร้าง
ความสัมพันธ์กับนางเอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ ดูแล้วมันอดเชียร์ยามาดะ
ไม่ได้จริงๆครับ แต่ละครั้งที่คนในบอร์ดเฮ ผมก็เฮตาม เขาร้องไห้ ผมก็
ร้องตาม ครับ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆครับ ผมขอชื่นชมคุณ อัตสึชิ อิโตะ
ที่แสดงเป็น ยามาดะมากๆเลยครับ ตีแผ่อารมณ์โอตาคุงักเิงิ่นได้อย่าง
เข้าอารมณ์สุดๆครับ และที่สำคัญ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นใน
futaba channel ครับ (บอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเค้าครับ)
เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ใน wiki ครับ เห็นเค้าบอกว่าคู่นี้ยังรักกัน
อยู่เลยครับ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ความรักแบบนี้น่าสรรเสริญ
มากครับ ถ้าใครอยากดูก็มาขอจากผมได้ครับ ผมมีครบทุกตอน
หรือถ้าขี้เกียจขอก็ไปดูจาก youtube ได้ครับ มีครบทุกตอนเลย
เป็นซับอิงค์นะ ผมรับรองครับ ว่าคุณจะต้องชอบแน่!!!!

Sunday, September 03, 2006

Onion head Club!!

ครับ เนื่องจากความนิยมเป็นอย่างสูงของเจ้าตัว Onion Head นี่ทำให้ผมสงสงสัย
ว่ามันคือตัวบ้าอะไรกันแน่ ก็เลยลุยหาข้อมูลครับ ผลปรากฏว่า มันคือตัว Emoticon
ที่สร้างสรรค์มาจาก http://blog.yam.com/onion_club นั่นเองครับ เล่นเอาผม
งงตั้งนานว่ามันคืออะไรกันแน่ ถ้าใครสนใจก็ไปหาเพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ
http://english.simonemoticon.com/

ปล. ผมแค่อยากรู้ว่ามันคืออะไรจริงๆนะ แล้วรู้สึกว่าจะเป็นผลงานของคนจีนนะ

From now... represent a core!!

วันนี้ได้ส่ง assignment#2 ของ Com Secure ไปแล้วครับ ส่งเสร็จภายใน
เวลา 30 วินาที... ดีจังเลย แบบนี้ผมล่ะชอบจัง พร้อมกับการประกาศงานชิ้นที่ 3
ต่อมาทันที ก็ดีครับ ได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อแบบนี้ ก็จะได้เตรียมตัวได้เลยครับ

Spitz
วงดนตรีสายเลือดญี่ปุ่น ที่มีผลงานเพลงมาเข้าหูผมจาก insert song ของ
Honey & Clover วันนี้ผมได้ลองฟังรวมทุกอัลบั้มของวงนี้ดูแล้วครับ...
พูดไดเลยครับว่าเพราะมากเลย ทุกเพลงเป็นเพลงแนว Pop-Rock ฟังง่ายๆ
สบาย แต่ได้ใจมากครับ ถ้ารู้ว่าเพราะขนาดนี้ คงจะหยิบมาฟังตั้งนานแล้ว
ไม่ปล่อยให้ทิ้งแหมะไว้ในห้องโปรเจ็คเยี่ยงนี้แน่ๆ ถ้าอยากลองฟังดูก็มาขอยืม
แผ่นไปจากผมได้นะครับ (ขอขอบคุณ นที ที่ให้ DVD ผมมาทั้งดุ้นเลย)

ลูกชายของผมได้รับการซ่อมแซมส่วน LCD Cover แล้วนะครับ เรียกได้ว่า
ใหม่ใสปิ๊งเลยทีเดียว (เฉพาะส่วน) ก็หวังว่ามันคงจะอยู่คู่กับผมไปจนสิ้นปี
นี้นะครับ อีกไม่นานแล้วด้วย เพราะเห็นท่านพ่อของผมบอกว่าอยากจะเอา
ลูกชายตัวนี้ไปใช้งานแล้ว ก็โอเคครับ ไว้ให้ผมทำโปรเจ็คเสร็จก่อนละกัน

ช่วงนี้เป็นช่วง critic ของโปรเจ็คเลยทีเดียวครับ ผมก็นั่งงมกับ simlink
ต่อไปก่อนล่ะครับ ได้เรื่องอะไรแล้วจะนำมาโพสเพิ่มเติมครับ

ปล. สำรหับคนที่อ่านภาษาอังกฤษที่ผมมักชอบโพสไม่ออก... ก็เป็นเรื่องของ
ท่านนะครับ 55555

Wednesday, August 30, 2006

Pissed me off! a stupid VAT bill!!!

Well, Actually this is something that have been happened on
Tuesday. Why I'm so late to blog this up... must say because
I'm completely irritated with the situation, pissed me really much
that I would like to send somebody to hell! Luckily I can control
my stupid self but gain by an evil of nervous instead!?
What did it like... here's a story.

At 14.30:
I have been summoned to CE Secretary room in ECC by
Prof. amnach. He want to discuss about a stupid vat bill
that I have go to claim it on Saturday. (In fact, I have go
to that shop on Saturday already!) I have kinda fear that
this might happen anyway... so it come true!! I speak with
a secretary and she blame me for my stupid mistake that
cause this problem. Urgh~~ I can't resist any of it's, so I
have to go to Pantip Plaza again. I return to my dorm to
take a bath, then decide to go there by taxi. I have tried
themfor 5-8 (can't remember exactly) all of them refuse
me. Nevermind I can go by 517 instead, so I wait for the bus
then the stupid bird just SHIT!! on me!! Bloody hell fire here...
Then 517 has come but wait a minute... isn't that 23 come be
fore? so I took 23 instead and sleep dead from the moment my
ass has been toughing it!

At 17.15 -- Pantip Plaza
Here we are at Pantip! I go to a shop call "Fuedal Lord" to
clear this mess up. I won't go in detail here since it's give me
so much irritated just to think about it. (even it's a really
good example of real life here) it's take me for an hour to
figure out a problem. At last I have a new bill for 3 pieces
each bill is separated in 9,900฿. OK, finish the day so I
return to KMITL

Tuesday -- At 10.40 -- CE Secretary room
I came in to send a new bill to be register. She look at it and
say "Not approve!?". Oh Brilliantly, she said I need to write
down the value price by myself! so I did. Hope I'm not going
to jail retard of this shit here...

PS. I have finish a 2nd assignment for Com Secure already!

Monday, August 28, 2006

Apache + SSL

งาน Computer Security ครั้งที่ 2 ก็เริ่มทำไปแล้วนะครับ ทำไปทำมา
เครื่องผมสามารถ access เข้าแบบ SSL (คือต้องใส่ https: อยู่ข้างหน้า)
น่ะครับ ผมก็คัดลอกตามเว็บนี้ here น่ะครับ ผลลัพธ์ก็ออกมาโอเคดีครับ
ผมทำอยู่ใน ubuntu 6.06 ในลูกชายของตัวเองครับ ตอนแรกก็ลง
apache จากใน apt-get ครับ แต่ทำไม่ได้ซะงั้น จนสุดท้ายก็เลยมา
compile ไฟล์เอาเองตาม tutorial เค้าเลยครับ แต่ผมเปลี่ยนนิดหน่อย
นะครับ สิ่งที่ผมเปลี่ยนก็คือ ผมเปลี่ยน version ของ openssl เป็น 0.9.8b
และ apache เป็น 2.0.59 แทนน่ะครับ ส่วนตรงการทำไฟล์ ssl ข้างล่าง
ผมก็เปลี่ยน password ที่ต้องใส่ใน -passin , -passout เป็นอย่างอื่น
แทนครับ ตอนนี้ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรเพิ่มอีกรึเปล่า ถ้าไม่ก็โอเคแล้วล่ะครับ

Friday, August 25, 2006

Air Gear Spoil!!

ถูกต้องแล้วครับ เผอิญว่างๆเลย search ข้อมูลของ air-gear เลยไปเจอ
เว็บให้โหลด raw ของเรื่องนี้เข้า... ก็ดูดหมดเลยซิครับ ทีนี้ก็ได้รู้ซะทีว่า
เรื่องนี้มันดำเนินไปถึงไหนกันแล้วแน่ แต่ผมขี้เกียจสปอยล์ให้ฟังตรงนี้
ครับ เพราะได้แต่ดูภาพ อ่านไม่ออก... น่าสงสารจริงๆเลยตู แต่ไม่เป็นไร
ครับแค่นี้ก็มันส์สุดๆแล้ว ...คุรุรุน่ารักชะมัดยาด เชียร์ๆๆๆ ให้มีบทอีกเย้อๆ
เลยเด้อ น่ารักดีเป็นบ้า

วันนี้สอบวิชา introduction to Robotics ครับ... นรกชัดๆครับ ยอมรับตรงๆ
เลยว่าทำไม่ได้เลยซักนิดเดียวครับ ท่าทางวิชาก็คงไม่พ้นลูปเดิมๆของผม
อีกล่ะนะครับ (ลูปทำไม่ได้ แล้วคะแนนก็ต่ำ) จริงๆ แล้วผมควรจะต้องมอง
อะไรให้ชาญฉลาดกว่านี้มากขึ้นไปอีกครับ ข้อสอบวันนี้แสดงให้เห็นว่า
ผมมองสมการไม่ออกเลยครับ ความผิดพลาดมาจากการฝึกฝนทำโจทย์
ที่น้อยเกินไปของผม แต่จะแก้ไขตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว แถมผม
ยังรู้ตัวอีกด้วยว่าปลายภาคก็คงจะมีชะตากรรมไม่ต่างกันไปเพราะความ
ขี้เกียจของผม... รู้ตัวแต่ไม่แก้ไข จัญไรเหลือเกินนะแก...

Thursday, August 24, 2006

Full Metal Panic! Continuing On My Own

และแล้วผมก็ได้อ่านนิยาย Light Novel ที่ส่วนตัวติดตามมานาน
ตั้งแต่อยู่ปี 2 เลยครับ FMP! คือทาง Boku-tachi เค้าก็แปลเสร็จ
ไว้นานแล้วล่ะครับ แต่ผมไม่เข้าไปอ่านเอง เพราะโดนกระแสฮารุฮิ
กลบความชอบของผมเสียสนิทเลย สำหรับเล่มนี้ถือว่าให้อารมณ์
เครียดได้อย่างหนักหน่วงเลยครับ เรียกว่าให้คนอ่านชื่นใจในตอนแรก
แล้วอัดนรกใส่ต่อยาวเลยครับ ถ้าให้พูดแนวสปอยล์ ก็คงต้องบอกว่า
มิธริล"เละ"เลยครับ... โซสุเกะ จบสิ้นกันเลยครับ ก็น่าสนใจว่าเล่มต่อ
ไป Burning One Man Force จะออกมายังไงต่อ เท่าที่ดูภาพตัว
อย่างแล้ว นามิน่ารักมากมายครับ สาวผมแดงหางม้ารูปร่างอ้อนแอ้น
แถมตาคมแบบนี้กระผมชอบครับ เรียกว่าเป็นตัวละครที่เซ็กซี่โดนใจ
กระผมมากที่สุดในดีไซน์ของอ.โดจิ ชิกิเลยทีเดียวครับ

...โม้มาตั้งนาน ผมว่าผมควรบอกให้ท่านผู้อ่านรับรู้ไว้บ้างว่าผมกำลัง
โม้เรื่องอะไรอยู่ Full Metal Panic! เป็นนิยาย Light Novel ที่วาง
แผงมาตั้งแต่ปี 1997 โดยปัจจุบันออกมาได้ 18 เล่ม(ที่ญี่ปุ่น)แล้ว
เป็นที่รู้จักในบ้านเราตอนที่เปลี่ยนมาลงในรูปแบบอนิเม ที่ประสบ
ความสำเร็จ จนออกมาได้ถึง 3 ภาคด้วยกันแล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
โลกคู่ขนานของเวลาในยุคปัจจุบันที่สงครามเย็นระหว่างโซเวียต
และมะกันยังคงดำเนินต่อไป เทคโนโลยีในด้านการทหารก้าวล้ำ
มาก มีอาวุธหุ่นรบสงคราม Arm Slave เป็นอาวุธหลักในสมรภูมิ
พระเอกของเรา ซาการะ โซสุเกะ ทหารและยอดมือสังหารได้รับ
ภารกิจให้แฝงตัวเข้าไปในโรงเรียนมัธยมปลายเพื่อปกป้องผู้หญิง
คนหนึ่งที่กุมความลับทางเทคโนโลยีเอาไว้ โดยเจ้าตัวไม่รู้ว่าเป็น
...เมื่อคุณนำทหารที่รู้จักแต่การสู้รบเข้าไปอยู่ในสังคมม.ปลาย เรื่อง
บ้าบอคอแตกสุดฮาจึงบังเกิดขึ้นครับ
ท่าอยากรู้เรื่องก็ขอให้ดูอนิเมเรียงตามนี้นะครับ
Full Metal Panic! (26 ตอน)
Full Metal Panic! fumoffu? (15 ตอน)
Full Metal Panic! The Second Raid (13 ตอน)
ขอให้ดูเรียงตามนี้นะครับ ผมการันตีความสุดยอดครับ โดยเฉพาะ
fumoffu ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นซีรี่ย์คอมเมดี้ที่ฮาแตกที่สุด
ตลอดกาลเรื่องนึงเลยครับ ส่วน The Second Raid! Sub^Nai ของ
ผมก็เคยฝากฝีมือเอาไว้ครับ

ปล. จริงๆแล้วผมไม่ควรสปอยล์เลยใช่มั้ยเนี่ย!?

Tuesday, August 22, 2006

Spinning my head with Xilinx System Generator!!

วันนี้ไม่มีอะไรมากครับ แค่จะมาบอกว่าการลงตัว Xilinx System
Generator เป็นอะไรที่ยากชะมัดเลยครับ มาดูวิธีการลง(ที่ผมกำลัง)
พยายามอยู่นะครับ (ขออัพเดตหน่อย... เสร็จแล้วครับ)

1. ต้องลง Matlab ตัวใหม่ล่าสุดครับ คือ 2006a โชคดีนะที่มี... ก็เลย
ลงไปเลย แต่ปัญหามันมีว่าเจ้าตัวเก่า 7.04 ดันโง่ลบออกไม่ได้ซะงั้น
ก็เลยใช้วิธีโหดลบ"เถื่อน"มันซะเลย พอลงเสร็จแล้ว มันดันบอกผมว่า
การลงของท่าน ไม่ต่อเนื่องกัน กรุณาลงใหม่ด้วยค่ะ... ก็ได้มาดูกันว่า
จะรอดมั้ย!?
2. ผมต้องอัพเดต Xilinx ISE Webpack 8.2i ตัวใหม่ล่าสุดเลยครับ
เพียงเพื่อจะเล่นมันให้ได้... ลำบากลำบนกันจริงๆ
3. ผมต้องโหลดตัว Eval ภายใน 60 วันมาใช้แทนไปพลางๆก่อน
เพราะของจริงเล่นไม่ได้ ต้องรออาจารย์อำนาจซื้อบอร์ด XUP มา
ประทานถึงตัวผู้น้อย... อันนี้ไม่เป็นไร เพราะคงจะได้ format เครื่องอีก
ในเร็วๆนี้แหละนะ (ลงเกมเยอะ หลานชายเลยออกอาการมึนๆ)
4. กระผมต้องลงทพเบียนกับทาง mathworks.com ด้วยครับ เพื่อโหลด
ไฟล์ .dll ตัวนึงมาแก้ให้ใช้งานได้ จบงานนี้ผมได้สมัครสมาชิกอีกแล้ว

จริงๆแล้วหลายชายก็ยังทำงานได้อย่างรวดเร็วอยู่น่ะครับ แต่เป็นเพราะ
ผมจัด partition ไว้มั่วซั่วก็เลยเกิด conflict อย่างที่เป็ยอนู่นี่แหละครับ
เฮ้อ... ปวดหัวกับความติงต๊องของตัวเองจริงๆ

เอ้อ ผมได้กลับมาอ่าน negima อีกรอบแล้วครับ หลังจากดรอปมันไปซะ
นานเลย เนื้อเรื่องช่วง เจ้า หลินเฉิง เปลี่ยนโลกนี่มันส์มากเลยครับ โดย
เฉพาะมุข bad end เนี่ยฮาขี้แตกจริงๆครับ ตั้งใจล้อเลียนเกม hentai ทั้ง
หลายเลยซินะครับ อ.อากามัตสึ

Monday, August 21, 2006

Thanks a lot... Omni!!

เมื่อครู่ได้เข้าไปบล๊อกของ Omni แล้วเจอกระทู้กล่าวลาของเขาครับ ดูเหมือน
ว่าสุดท้ายแล้ว เทพ Omni ที่ผมพึ่งพิงบริการอัพเดตอนิเมตลอดมาในรอบปีจะ
เลิกทำบล๊อก Random Curiosity ครับ ไม่ว่านี่จะเป็นโจ๊กปล่อยออกมาหลอก
เล่นหรือว่าจะเป็นเรื่องจริง ผมก็ค่อนข้างเข้าใจหัวอกของเขาอย่างดีทีเดียวครับ
เพราะตัวผมเองก็ต้องลาจากการทำซับท่สนุกไป เพราะเหตุผลว่าผมเข้ามาสู่ปี
สุดท้ายของชีวิตมหาลัย งานใหม่ที่เข้ามาในชีวิต ผมไม่รู้หรอกนะว่า Omni จะ
คิดเหมือนผมรึเปล่า แต่ที่ตัวผมเลิกยุ่งกับงานซับแล้วนี่ เป็นเพราะเวลาของ
การเป็นเด็กมันจบลงแล้วครับ... โดยที่ผมยังไม่อยากยอมรับแต่ผมก็ต้องเผชิญ
กับมัน(เรื่องนี้ไว้เล่าให้ฟังคราวหน้าดีกว่า) ก็ขอขอบคุณ Omni มากๆเลยครับ
ผมมักจะใช้เวลาเข้าบล็อกเค้าทุกครั้งที่ต่อเน็ตได้ เพราะบล๊อกเค้าอัพเดตการ์ตูน
บ่อยมากและเร็วมาก แต่การทำแบบนี้ได้ต้องใช้แรงใจแรงกาย และการอุทิศตน
ที่จะสละเวลาของตนเองอย่างมากครับ แต่ถ้าเงื่อนไขเรื่องเวลาและแรงใจมอด
ลงไป ก็ทำอะไรต่อไม่ได้แล้วล่ะครับ Omni บอกว่าเค้าอัพกระทู้ขึ้นมาได้ถึง 1054
กระทู้เลยทีเดียว และจากจำนวนคนที่เข้าแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ผมพูดได้
เลยครับว่า Omni ต้องภูมิใจสุดๆแน่นอน ขอบคุณมากครับ ที่ให้เวลาอันแสนสนุก
กับผม ถ้าโชคดี Omni กลับมาทำตรงนี้ต่อ ผมก็พร้อมจะติดตามต่อครับ

Sunday, August 20, 2006

Harry Potter and The Half Blood Prince

เมื่อคืนผมได้อ่านแฮรรี่เล่มหกเสร็จซะมีครับ หลังจากดรอปมันไป
นาน แล้วพ่อผมก็ถามว่าอ่านเสร็จรึยัง เลยนึกออกว่ายังไม่จบนนี่
หว่า เลยไปเอามาต่อให้จบครับ ภาคนี้แฮร์รี่เหนื่อยจริงๆครับ เหมือน
เช่นทุกภาคที่ประสบพบเจอเรื่องซวยๆตลอด เจเค โรวลิ่ง ยังคงเสน่ห์
ของพ่อมดน้อยไว้ได้อย่างครบถ้วนครับ แม้เนื้อเรื่องจะโหดขึ้นเรื่อยๆ
ตามอายุของแฮร์รี่ แต่ก็ยังถือว่าเป็นนิยายที่ยังคงสนุกอยู่ครับ สำหรับ
เนื้อเรื่องผมไม่ขอสปอยล์ละกัน เพราะถ้าใครสนใจก้คงจะได้อ่านกันไป
เรียบรอยแล้วล่ะครับ แต่ถ้าใครยังไม่อ่าน ผมก็จะไม่เล่าครับ ตอนนี้
ก็เหลือเล่มหน้าที่เค้าว่าจะเป็นเล่มจบของซีรี่ย์นี้ครับ ว่าจะนำตอนจบ
ที่สมบูรณ์แบบตามที่แฟนๆเฝ้าหวังได้รึเปล่า ก้คงต้องรออ่านเอาครับ

Nothing... like it! English Premier League is BACK!!!

กลับมาประจำการกันอีกครั้งแล้วครับ สำหรับฟุตบอลลีกสูงสุดของ
ประเทศอังกฤษ หรือที่รู้จักกันดีในนาม "พรีเมียร์ลีก" นั่นเองครับ
เมื่อคืนก็เริ่มประเดิมสนามไปกันแล้ว ผมได้ดูถ่ายทอดสดสามคู่ใน
ช่อง ESPN ครับ คู่แรก ลิเวอร์พูลรอดตายจากดาบนรกของเชฟยู
ได้อย่างหวุดหวิดจากการพุ่งของเจอร์ราร์ดครับ ถ้าได้ดูจะเห็นกัน
ว่านี่เป็นลูกที่เจอร์ราร์ดมักจะได้ลูกโทษจากกรรมการเป็นประจำ
เลยครับ คือวิ่งมาสุดฝีเท้าแล้วรอให้ใครซักคน"สะกิด"ครับ ด้วยโม
เมนตัมของร่างกายก็จะทำให้เซไปมาแล้วล้มลงไปเองครับ เป็นวิธี
การเรียกจุดโทษที่เจอร์ราร์ดเชี่ยวชาญมากครับ ลิเวอร์พูลเลยรอด
ตายมาได้ครับ และขอชมการเล่นของเชฟยูด้วยครับ เล่นกันแบบมี
วินัยมากทีเดียว เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทีมอยู่รอดครับ แต่เท่าที่ดู
แล้วยังมีงานต้องแก้ไขกันอีกเยอะเพื่อยกระดับทีมให้รอดชีวิตใน
ลีกบรรลัยนี้ได้ครับ
ส่วนคู่ต่อมาก็เป็น อาร์เซนอลเปิดรังใหม่ Emirates Stadium รับ
การมาเยือนของแอสตัน วิลล่า ที่ได้ผู้จัดการทีมคนใหม่ มาร์ติน โอนีล
เข้ามาคุมทีมครับ ทั้งเกมเป็นการบุกขยี้ข้างเดียวของอาร์เซน่อล แต่
กลับเป็นทีมเยือนที่ขึ้นนำไปก่อนจากลูกโหม่งของโอลอฟ เมลล์เบิร์ก
ครับ แล้วมาตามตีเสมอได้จากจิลแบร์โต้ครับ เกมนี้ในที่สุดผมก็ได้
เห็นฝีเท้าของเด็กนรกของอังกฤษคนใหม่ ธีโอ วัลคอตต์ครับ หมอนี่
น่ากลัวไม่ใช่น้อยเลยครับ แต่ขอดูให้มากกว่านี้หน่อย อุตส่าห์แอบลุ้น
ให้ลงมานรกแตกเหมือนรูนี่ย์ แต่ก็มีส่วนในประตูตีเสมอครับ เพราะ
โยนบอลเข้ามาให้จิลแบร์โต้ซัลโวครับ
คู่สุดท้ายก็ โบลตันกับสเปอร์สครับ คู่นี้แทบไม่ได้ดูเลย เพราะนั่งอ่าน
หนังสืออยู่ ปุ๊บปั้บแม่งยิงสองลูก ไก่หงอยเลยครับ พูดอะไรมากไม่ได้
เพราะแอบมีใจให้โบลตันมาสอง-สามฤดูกาลแล้วครับ ชอบสไตล์การ
ทำทีมของแซม อัลลาไดซ์มากครับ เถื่อนดี ส่วนไก่ยังไม่เข้าร่องเข้ารอย
ครับ คงเป็นเพราะเจอเกมบีบของโบลตันเลยเล่นไม่ออกมั้งครับ คู่นี้
ก็เป็นบอลแพ้ทางกันอยู่แล้วด้วย เลยไม่แปลกที่ไก่จะเสียท่าครับ แต่
ขอบอกว่าลูกที่สองของอีบัน คัมโปนี่สุดยอดมากครับ ยิงสวนเรียดพื้น
สี่สิบหลาเข้าไปหน้าตาเฉยเลยครับ เล่นเอาพอล โรบินสันงงขี้แตกเลย
ครับ ยิงได้สะใจจริงๆครับ

ผมก็คงจะมาอัพเรื่องฟุตบอลเพิ่มอยู่เรื่อยๆตลอดฤดูกาลนั่นแหละครับ
แต่คงเป็นเฉพาะคู่ที่ผมได้มีโอกาสดูนะครับ และคาดว่าปีนี้คงได้ดูฟุตบอล
น้อยลงไปอีก แต่ก็จะติดตามเหมือนเคยครับ เพราะเป็นเรื่องที่ผมตามมา
นานมากแล้วครับพรีเมียร์ลีก เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้วมั้งเนี่ย

Wednesday, August 16, 2006

Miscallenous day...

เมื่อวานไปบ้านหม้อมาครับ ไปแค่จะดูราคาของกล้องวงจรปิดและ กล้อง
วิดีโอ over ip ครับ เท่าที่ดูราคาแล้ว น่าสนใจทีเดียวครับ เพราะติดตั้งใน
สำนักงานขนาดเล็กก็ใช้งบประมาณเพียงเล็กน้อยเอง แต่ที่น่าสนใจคือ
วิดีโอ over ip ครับ อันนี้ให้หัวหน้างานสั่งงาน คุยกันผ่านระบบ lan เลย
ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปมาระหว่างตึกเพื่อจะสั่งงานครับ
หลังจากนั้นได้ทดลองเล่นเกม Counter Strike: Source ดูครับ ก็คือ
counter ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีกัน แต่ port ไปใส่ใน engine: Source ของ
Half-life 2 แทนครับ ผลที่ได้ก็คือภาพที่สวยงามขึ้นอย่างมาก รายละเอียด
ที่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย และการเล่นที่สนุกขึ้นครับ แต่ตอนแรกก็ต้องปรับตัว
เล็กน้อยเหมือนกันครับ เพราะยังไม่คุ้นกับท่าวิ่งที่ดูตลกๆของ ตัวละคร
แต่ก็ยังยิงกันมันส์ได้เหมือนเดิมครับ
เอ้อ ลืมพูดถึง Need for Speed: Most Wanted ไปเลยแฮะ ลงเกมนี้ไปเมื่อ
วันจันทร์ครับ ภาคนี้เอาข้อดีของ Underground 1, 2 กับ Hot Pursuit มา
ผสมรวมกันครับ บวกกับกราฟฟิก engine ตัวใหม่ของ EA ทำให้ออกมาสวยงาม
มากครับ และขับกันมันส์โคตรๆเลยครับ โดยเฉพาะตอนที่หนีการไล่ล่าของตำรวจ
นี่สะใจจริงๆครับ เพลงประกอบก็ยังคงความแนวไว้ได้อย่างเต็มที่ครับ เรียกได้
ว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ เสียหน่อยก็ตรงที่ตอนจะแข่งต้องทำภารกิจให้เสียก่อน
เรียกว่าเพิ่มส่วนของ quest มาใส่ในเกมขับรถด้วย ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบครับ

ปล. ถ้าท่านต้องการดื่มเครื่องดื่มที่จะทำให้ท่านหัวหมุนติ้วๆ ได้ แถมด้วย
อาการมึนตกค้างเมื่อยามตื่น... ในราคาเพียง 25 บาทเท่านั้น ผมขอแนะนำ
สยามสาโท (เป็นที่รู้จักกันในนาม "ซาโต้คุง") รสชาติอาจจะประหลาดซัก
นิด แต่ประสิทธิภาพนี่ถึงใจมากครับ

Monday, August 14, 2006

How do I manage this rotten feeling?

2-3 วันมานี้เป็นช่วง"ตกต่ำ"ของผมอีกแล้วครับ เพราะกลับมาสู่ลักษณะ
แบบเดิม นั่นคือขี้เกียจไม่อยากทำบ้าอะไรเลย... ต้องยอมรับจริงๆครับ
ว่าความรู้สึกแบบนี้แวะเวียนเข้ามาหาผมอยู่เป็นประจำ ถ้าเปรียบตามกระแส
ก็คงจะเหมือนกับคลื่นที่มีขึ้นมีลงกระมังครับ เวลาแบบนี้มักจะทำให้ผมมอง
เห็นตัวตนที่ผมพยายามจะหลีกเลี่ยง แต่ก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ...
ผมรู้ตัวอยู่บ้างนิดหน่อยครับ ว่าเป็นคนที่มีดีแต่ปาก ชอบอวดสรรพคุณต่างๆ
นานา แต่ทำจริงแทบไม่ได้... แค่พยายามปรับปรุงตัวคงจะไม่ได้ผล เพราะ
สิ่งนี้จำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดทั้งทัศนคติที่ตัวเองมี และ
การกระตุ้นตัวเองให้มีความสนุกขึ้นมา ตอนที่ทำอะำไรในภาวะกดดัน ผมมักจะ
โดนบีบให้ต้องแสดงความสามารถที่แทบจะไม่มีออกมา ลงท้ายเลยกลายเป็น
เพียงหมาหัวเน่าที่ดีแต่บ้าบอต่อสายตาชาวประชา... มันก็เป็นความจริงล่ะนะ
ครับ เพราะผมเองมักจะมีความรู้สึกสุขใจยามได้รับชัยชนะ และเศร้าใจเมื่อ
ยามท้อแท้กับปัญหาที่รุมประดังเข้ามา ซึ่งแทนที่ผมจะลุกขึ้นไปทำสิ่งที่สำคัญ
และจำเป็น ผมกลับหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นเพื่อไปผ่อนคลายจิตใจกับ
เรื่องที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วนอะไร... ยังดีครับ ที่ผมเพิ่งจะ 21 เองเท่านั้น
ผมยังมีโอกาสให้ผิดพลาดกับชีวิตอยู่ คงต้องค่อยๆปรับทัศนคติของตัวเอง
ไปเรื่อยๆ จนถึงวันนึงที่ตัวเองจะได้ภูมิใจและสบายใจที่จะยอมรับตัวเองได้
ครับ... (คงจะอีกนานแสนนานเลยมั้ง)

Friday, August 11, 2006

เหนือฟ้ายังมีฟ้าฉันใด ปัญญาคนย่อมเป็นฉันนั้น...

่อย่างงครับที่จู่ๆผม ลุกขึ้ยมาเล่นคารมคมคาย มั่วนิ่มเช่นนี้ เนื่อง
จากว่าผมได้มีโอกาสอ่านการ์ตูนเรื่อง "หงสาจอมราชันย์"
แล้วนั่นเองครับ การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ธรรมดาดั่งข่าวลือที่ได้ยิน
มาจริงๆครับ เพราะได้รับคำชมด้านความล้ำลึกและการ
หักเหลี่ยมของเนื้อเรื่องเป็นอันมาก ตัวเรื่องก็คือพงศาวดาร
สามก๊กชื่อดังนั่นเองครับ เพียงแต่ฉบับนี้ต่างจากชาวบ้านตรง
ที่ทำการดัดแปลงเบื้องหลังและรายละเอียดของเหตุการณ์
ดังๆในสามก๊กเสียใหม่ครับ คือผลลัพธ์ยังคงเดิม แต่รายละเอียด
อาจจะไม่ใช่อย่างที่พวกเราคุ้นเคยกันมานะครับ ที่สำคัญเรื่องนี้
ได้ใจผมอย่างมากในเรื่อง ปัญญา ที่แสดงออกในเรื่องครับ
เรียกได้ว่าเหนือชั้นเป็นอันมากทีเดียว การรบที่ยึดหลักพิชัยยุทธ์
เป็นที่ตั้ง โดยที่เหล่ากุนซือในเรื่องโชว์ให้เห็นเลยครับว่าสมองมี
ไว้ทำอะไรได้บ้าง และเหล่าขุนศึกดังๆไม่ได้มีแต่ทักษะการบู๊นะ
ครับ เรื่องบุ๋นพวกนี้ก็สุดยอดเลยครับ พลิกเหลี่ยมแก้เกมกันแบบ
คนอ่านอย่างผมแทบตะลึง ขอยกความดีความชอบให้กับ
อ. เฉิน เหมา ผู้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ด้วยครับ ยอดเยี่ยมจริงๆ
ตอนนี้ก็รอคอยเล่มใหม่มาอ่านต่ออยู่นะครับ

Tuesday, August 08, 2006

Real Genius!!!! Apple's MAC OS X "Leopard"

เมื่อซักครู่ผมเพิ่งไดดู งาน wwdc 2006 keynote address
จากลิงค์ข้างบนนั่นแหละครับ... คำเดียวที่ผมจะให้คือมันสนุกมากๆ
เลยครับ ในฟูเทตตัวนี้ (ผมจะเรียกมันว่า คีย์โน้ต ละกันครับ) คีย์โน้ต
ตัวนี้ เป็นรายการเปิดงานสัมมนา wwdc 2006 ที่เริ่มกันไปเมื่อวานครับ
รายละเอียดเข้าไปดูกันเอาเองนะครับ เพราะเรื่องที่ผมจะโม้วันนี้คือ
ความสุดยอดของ Leopard ครับ
เริ่มจาก เทคโนโลยีใหม่แรกเลยครับ Time Machine ...
เป็นระบบการแบ็กอัพข้อมูลชนิดใหม่ แบบแหกกฏทุกความคิดของเรื่องการ
แบ็กอัพอันน่ารำคาญใส่ใน พาร์ทิชั่นอื่น หรือในซีดี ดีวีดี ทิ้งไปเลยครับ
ย้ำครับ ด้วยระบบ Time Machine ที่นำมาแสดงโชว์นี้ คือความน่าฉงน
ของวิศวกรอย่างแท้จริงครับ ระบบนี้ทำงานยังไง? ง่ายๆครับ มันแบ็กอัพ
ทุกสิ่งทุกอย่างใน MAC ของคุณครับ... ใช่ครับ ทุกอย่างครับ คุณไม่ต้องไป
เสียเวลามานั่งแบ็กอัพเพราะกลัวไฟล์มันจะหายแล้วครับ ระบบ
Time Machine ทำให้กบคุณเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งมันเจ๋งแบบสุดๆ
ก็คือความสามารถในการ restore แบบรายวันเลยครับ สมมติว่าผม
เปลี่ยนแปลงโค้ดผมไปเมื่อ 5 วันก่อน แล้วโค้ดที่ผมทำอยู่นี้ ทำไปทำมา
มันออกแนวหลุดๆไปไกล ผมก็ใช้ Time Machine นี้ไปดึงมันกลับมาหน้า
ด้านๆได้เลยครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในทุกโฟลเดอร์ Time Machine
จะจำไว้ให้หมดครับ ผมเห็นแนวคิดนี้ครั้งแรก ผมงงเลยครับ "แล้วมันไปเก็บ
ไฟล์ไว้ที่ไหนวะเนี่ย?" หวังว่าจะมีการอธิบายหลักการเก็บออกมามากกว่านี้
นะครับ เพราะมันน่าสนใจที่สุดเลยครับ
ต่อมาก็คือ ichat ครับ... โปรแกรมนี้ใน Tiger ถือเป็นเรื่องที่แนวมากเลยครับ
แต่ใน Leopard มันเพิ่มความ"กวนตีน"เข้าไปแบบสุดๆเลยครับ ด้วยการเพิ่ม
photo booth ใส่ลงไปได้ สามารถลง note เพื่อการทำ live presentation
ได้อย่างสวยงาม และที่กระชากใจอย่างแรงคือ backdrops ครับ... การแชต
ที่เราสามารถเปลี่ยน wallpaper ด้านหลังได้ดื้อๆครับ ไม่พอครับ ยังเล่นไฟล์
วิดีไอได้ด้วย!!!ครับ ถ้ามันหลุดมา ผมก็สามารถเล่นไฟล์การ์ตูนที่ชอบ มาเป็น
ฉากหลังให้กับผมคุยกับเพื่อนที่มี MAC ได้... สุดยอด!!
ที่ประทับใจอีกอันนึงก็คืิอ DashBoard ครับ ใน Tiger โปรแกรมนี้เป็นของ
เล่นที่เท่มากเลยครับ ใน Gnome ก้มี โปรแกรมนี้อยู่ชื่อว่า GDesklets แต่มี
Widgets ที่สวยไม่เท่าของMACแค่นั้นเอง แต่ใน Leopard มันยกระดับขึ้น
ไปอีกชั้นเลยครับ ทาง Apple เข้าใจดีถึงศักยภาพของ Developer จากทั่วโลก
ที่สนใจฝากฝีมือให้ผู้ใช้อย่างเราๆได้ชื่นชมกับความสวยงามของแนวคิดที่แหวก
จึงได้เพิ่ม DashCode ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้าง Widgets ที่ง่ายขึ้นไปอีกมาด้วย
แต่แค่นี้ยังไม่พอครับ สิ่งที่กระแทกใจผมอย่างแรงเลยคือระบบ WebClips
ครับ... WebClips สามารถ"ลาก" html page ใดๆก็ได้มาทำเป็น Widgets ด้วย
การ Drag&Drop ทีเดียวครับ!! ลองนึกสภาพถึงอะไรซักอย่างที่มีอัพเดตอยู่
บ่อยๆในหน้าเว็บไซต์ที่เราเข้าไปเป็นประจำดูสิครับ เราลากตรงส่วนนั้นมาทำ
เป็น Widgets ได้ดื้อๆเลยครับ... โคตรสุดยอดเลยครับ!!
และที่โดนใจผมอีกอันนึงก็คือระบบ Core Animation ครับ ระบบนี้เป็น
API ของ MAC ที่จะช่วยในการพัฒนาโปรแกรมบน MAC ให้ง่ายและ
ทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีกครับ ด้วยการเพิ่มลูกเล่นที่เกี่ยวกับ animation เข้าไป
คุณจะสามารถทำโปรแกรมที่เหมือนกับหนังเจ๋งๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะครับ

จริงๆยังมีอีกตั้งหลายอย่างเลยครับที่ในคีย์โน้ตตัวนี้แสดงให้เราเห็นถึง
ความ"โคตร"ของ Apple ครับ และมีมุขเหน็บ Windows Vista กระจาย
อยู่เต็มเลยครับ โดยเฉพาะตอนที่นำ Vista Demo มาเปรียบเทียบกันสดๆ
นี่แหละครับ ฮาโคตรๆ ถ้าใครดูแล้วจะเริ่มเปลี่ยนใจมาหลงรัก MAC ก็ไม่
ว่ากันครับ ส่วนตัวผมเทให้ MAC มานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้เป็น
เจ้าของเสียที แต่สตีฟ จ๊อบส์ประกาศว่า Leopard ตัวเต็มจะสามารถ
หลุดออกมาได้ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าครับ... ในตอนนั้นผมคงจะมีเงิน
พอซื้อ MacBook ซักเครื่องแล้วแน่ๆ เก็บตังรอไว้ดีกว่า เอิ๊กๆ

Friday, August 04, 2006

At last... My Son can do Compiz!!!

วันนี้เกิดนึกครึ้มประหลาดขึ้นมาครับ เลยลองลง Xgl+Compiz ใส่
ตัวลูกชายของผมเลย โดยทำตาม tutorial for ati(32 bit) อันนี้ดูครับ
ผลปรากฏว่าขณะที่ลง lib-mesa อยู่นั้น ลูกชายเกิดอาการหน้าจอ
memory leak ออกมาครับ ผลก็คือหน้าจอสีเพี้ยนไปมาจับเค้าอะไร
ไม่ได้เลยครับ ผมรอจน apt-get ทุกอย่างเสร็จ (ดูเอาจาก LED บอก
สถานะของ HDD) ผมก็เลยทำ manual reset ให้กับลูกชายเลยครับ
นั่นก็คือการดงปลั้กไฟออกนั่นเอง... แล้วก็รอซักครู่ ให้ memory clear
ไปก่อน แล้วจึงลองเปิดเข้า Ubuntu ใหม่อีกรอบ จึงทำตาม tutorial
ต่อครับ ทำจนเสร็จหมดทุกอย่าง... รีเซ๊ตเครื่อง เข้ามาใหม่ ลูกชายของผม
สามารถเล่น compiz ได้แล้วครับ จากผลการทดสอบเบื้องต้น ค่อนข้าง
กระตุกพอตัวเลยครับ คงเป็นเพราะ memory การ์ดจอ Radeon 9200
ของผมมันน้อยด้วยล่ะครับ เลยไม่สามารถทำ buffer ได้ทันท่วงที แต่ก็
ออกมาสวยงามมากครับ เดี๋ยวจะลองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพมันให้เร็วขึ้น
กว่านี้อีกหน่อย ฮ่าๆๆ ลูกชายผมเข้าใกล้ความสุดยอดเข้าไปทุกทีแล้ว

Thursday, August 03, 2006

The Riddle - Five for Fighting

Here's a riddle for you
Find the Answer
There's a reason for the world
You and I...

เพลง the riddle ของ Five for Fighting ครับ (วงที่ร้องเพลง Superman
ไงครับ) มีคนแนะนำผมมาก็เลยไปหาโหลดครับ นี่ link MV
เพลงนี้ MV สวยมากเลยครับ เข้าใจแสดงเรื่องราวต่างๆ และถามถึง
มุมมองของการมีชีวิตในโลกนี้ของเราครับ ของผมน่ะตอบไม่ได้หรอกครับ
แต่มีท่อนนึงที่โดนใจผมมากคือ...

Dad I'm big but we're smaller than small
In the scheme of things, well we're nothing at all

เอ้อ ทำ java cipher app ไป 50% แล้วนะครับ แล้วอีก 50% ที่เหลือ
จะจัดการภายในวันนี้แหละครับ รวมถึงการบ้านโรโบติคด้วย...

Monday, July 31, 2006

Project at Work!!

- สร้างวงจร CPLD ที่ทำหน้าที่ขยายพอร์ตออกมาจาก Computer's LPT Port
เช่น ส่งสัญญาณจากเครื่องคอมมาสู่วงจรนี้ผ่าน LPT Port
แล้วให้วงจรนี้ขยาย address เพื่อไปใช่ต่อเป็นท่อขยายเหมือนกับ HUB

- CPLD Memory Buffer Extension

**Final Destination**
- สร้าง PC Base ขนาดเล็กให้เป็นชุดคิตใช้งานสำหรับเด็กๆที่ต้องการ
รู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์ เอามาตีแข่งกับไมโครคอนโทรลเลอร์

รายละเอียดดูได้ใน file ลับเฉพาะ

Saturday, July 29, 2006

XGL Success!! (After 6 Month of trying)

ขอขอบคุณหลานชายคนใหม่มากครับ ที่สามารถเล่น compiz+xgl ได้อย่าง
ทรงพลังเต็มสูบ ไม่มีการกระตุกให้เสียอารมณ์แม้แต่เล็กน้อยเลยครับ
เทาที่ดูคำสั่งจาก compiz แล้ว ดูเหมือนว่าจะมีอะไรให้ผมเล่นได้เยอะแยะเลยครับ
ถ้าใช้ทำงานอาจจะเกิดความรำคาญได้ครับ แต่ถ้าใช้ไปนี่จะเกิดความรู้สึกโคตรเทพ
ขึ้นมาตะหงิดๆจริงๆครับ เดี๋ยวไว้มาอัพเดตต่อ ถ้าผมพอจะใช้เป็นแล้ว

Computer Security -> "Simple Cipher"

เมื่อคืนนั่งเสียเวลาทั้งคืนไปกับการศึกษาหลักการของ
"Symmetric Cryptography" สรุปแล้วไม่รู้อะไรเพิ่มขึ้นมาเลย
เท่าที่จับใจความออกมาได้ เจ้าเอนคริปต์ตัวนี้ จะเป็นการเข้ารหัสข้อมูล
โดยมี secret key เป็นตัวหลักที่ทั้งผู้รับและผู้ส่งต้องรู้ ไม่งั้นแกะไม่ออกครับ
ดูเหมือนว่าใน class ของ javax.crypto package ครับ (ผมไม่รู้เรื่อง
java เลย อาจจะเรียกอะไรผิดไปนะครับ) ตอนี้กำลังอยู่ในช่วงอ่านไปเรื่อย
อยู่ครับ ได้เรื่องยังไงจะเอาขึ้นบล๊อคนี้อีกทีครับ
เอ้อ ชาวห้อง 4 ปีสี่ ถ้าแวะเวียนเข้ามาอ่านโพสนี้ เนื่องในโอกาสรับน้อง
ที่จะถึงนี้ ผมอยากจะทุ่มทุนสร้าง Chivas Regal
ให้เป็นที่ระลึกกับปากท้องของพวกเราบ้าง อันเนื่องมาจากงบประมาณ
ที่จำกัดจำเขี่ยจึงอยากขอรวมตังค์พวกท่าน ซักขวดก็ยังดี ยิ่งดีล่อสองเลย
สนใจก็เตรียมตังค์ไว้นะครับ ขอบพระคุณมากครับ

Friday, July 28, 2006

Matlab's Simulink + FPGA + Xilinx = Alternative Design!

วันนี้ผมได้มีโอกาสไปอบรมเรื่องการออกแบบ DSP บน FPGA กับบริษัท
activemedia มาครับ โดยวิทยากรจากสิงค์โปร์คุณ Kenneth Wu เป็นผู้ให้
ความรู้กับผมในวันนี้ ขอบอกตามตรงเลยครับว่า "ผิดคาด" อย่างแรงครับ
เพราะผมก็นึกไปถึงการใช้งาน ISE Webpack แบบเต็มสูบ... ที่ไหนได้
เขาสอน Matlab ครับ! สอนการใช้ Simulink syntesis FPGA block ออกมา
ครับ เขาบอกว่าในกระบวนการออกแบบ FPGA ที่มีอยู่3-4ทางนั้น วิธีนี้ง่าย
สำหรับเค้าที่สุดแล้ว แต่สำหรับผมนี่เล่นเอาช๊อกครับ เพราะไม่เคยสนใจตัว
Matlab มันเลยซักนิดเดียวครับ จนวันนี้ได้เล่นมันแบบเต็มที่นี่แหละครับ
ด้วยเวลาอันจำกัดก็เลยได้เรียนหลักสูตร 4 วันจบในวันเดียว แบบงงๆไปครับ
ก็คงต้องเอาชีทประกอบที่เขาให้มานั่งศึกษากันอีกล่ะครับ แต่อย่างน้อยก็ได้
รู้ถึงอำนาจอันทรงพลังของ simulink ครับ บางทีอาจจะช่วยให้ project นรก
ผมมีทางเลือกที่ง่ายขึ้นเพิ่มมาก็เป็นได้

Wednesday, July 26, 2006

Physx -> A Physics Processing Unit!!

วันนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปใน Tomhardware เพื่อหาข้อมูล
เกี่ยวกับ Windows on Go (USBLive) เหมือนหับตัว Usbuntu
น่ะครับ แล้วก็ได้เห็นกระทู้ที่พูดถึงการ์ดตัวนี้ครับ Physx
ก่อนอื่นผมขอตั้งชื่อการ์ดใหม่ตัวนี้ว่า "การ์ดฟิสิกส์" นะครับ และ
คาดว่าในปีสองปีนี้ มันจะเริ่มเข้ามามีบทบาทใหเครื่อง PC ของ
เรามากขึ้นครับ
แล้วมันคืออะไรน่ะเหรอครับ? มันก็คือ หน่วยประมวลผลการ
คำนวณเฉพาะงานด้านฟิสิกส์ของโปรแกรมครับ ทาง ageia เขา
จะเน้นไปในทางเกมครับ คือลองนึกดูนะครับ เรามี cpu ไว้ประมวล
ผลค่าต่างๆในเกมใช่มั้ยครับ แล้วเราก็มี gpu (การ์ดจอยุคปัจจุบัน)
ไว้คอยคำนวณงานด้านกราฟฟิก อย่างเช่นสมการที่เกี่ยวกับการ
เรนเดอร์พวกภาพ 3D ไปออกหน้าจอ ซึ่งงานพวกนี้ได้รับการรองรับ
เป็นอย่างดีจากพวก api อย่าง directx หรือ opengl แต่งานด้าน
ฟิสิกส์โดยตรงนั้น ยังเป็นงานที่ cpu ต้องมารับเคราะห์อยู่ครับ
ซึ่งสมการฟิสิกส์แต่ละตัวถ้านำมาคำนวณกันจริงๆนี่ เล่นเอา cpu
ตายโหงเลยนะครับ ผมได้ยินมาว่า cpu ยุคปัจจุบันรองรับ object
algorithm ได้ประมาณ 2-3พัน objectเอง แต่เจ้าการ์ดฟิสิกส์ใหม่
นี้มันรองรับ object ได้ตัง 500,000 object เลยครับ!
แล้วที่มันมีออกมา จะเห็นผลลัพธ์ของมันยังไง? ก็ลองนึกแบบนี้ดูนะครับ
เกมยุคเก่า > เราวิ่งเอาจรวดมายิงใส่กัน ตัวละครตายห่า แต่ map แค่
เปลี่ยน texture ไปเป็นรอยไหม้...
เกมยุคใหม่ที่เน้นเรื่องฟิสิกส์ > เราเอาจรวดลองยิงอัดกำแพงดู
ตูม!! กำแพงทะลุเป็นรูอย่างสมจริง ไอ๊ส่วนที่เป็นกำแพงนั้นลอยไปตาม
แรงอัดของระเบิดที่เกิดขึ้น แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อย แล้วแตกกระจาย
ไปตามทิศต่างๆตามหลักการเรื่องการระเบิดของวัตถุ... ศัตรูที่อยู่อีกฝั่ง
ตกใจที่จู่ๆมีเศษอิฐลอยผ่านหัวมันไป งงซิครับ!?
คืิเริ่มเห็นภาพแล้วใช่มั้ยครับ ว่ามันเพิ่มความรู้สึกในการเล่นเกมได้มาก
แค่ไหน มันช่วยเพิ่มความรู้สึกสมจริงเข้าไปในตัวเกมอย่างชัดเจน
ฟังแล้วก็ดูเว่อร์ๆดีนะครับ แต่มาถึงคำถามสำคัญของคนที่ซื้อมันมา
ใช้กันดีกว่านะครับ

- ผมซื้อมาแล้ว เกมที่ผมเล่นมันจะเร็วขึ้นรึเปล่า?
ผมขอตอบตรงนี้เลยนะครับว่า "ไม่เลย"... เพราะมันทำงานในด้านฟิสิกส์
ซึ่งไอ๊ความเร็วที่คุณต้องการนั้นมันอยู่ที่ cpu ของคุณจะประมวลผลงาน
ของเอนจิ้นเกมได้เร็วมั้ย คุณมี memory เพียงพอจะรองรับ object ที่เกิด
อยู่ในฉากนั้นและสถานการณ์ขณะนั้นรึเปล่า คุณมีการ์ดจอที่แรงเพียงพอ
กับการคำนวณtexture&shaded pixel ที่เกิดขึ้นในภาพที่คุณกำลังมอง
ขณะนั้นรึเปล่า... นี่ตะหากครับสิ่งที่คุณควรพิจารณาถ้าอยากให้เกมที่คุณ
เล่นมันไม่"กระตุก"
ี
- จำเป็นต้องมีมันตอนนี้มั้ย?
ไม่จำเป็นเลยซักนิดเดียวครับ ยกเว้นแต่คุณจะนำมันมาคำนวณโปรแกรม
จำลองผลทางวิทยาศาสตร์ของคุณที่เต็มไปด้วยสมการเกี่ยวกับฟิสิกส์
เต็มพรืดครับ
สิ่งที่ผมนำมาพูดนี้เป็นการ์ดที่มีอยู่เจ้าเดียวในตลาดตอนนี้ครับ แถมสนน
ราคาก็ล่อไปตั้ง 300US$ นะครับ แพงกว่าคอมที่ทำงานธรรมดาในตลาด
ได้ซะอีกแน่ะครับ

แต่อย่างที่ผมได้บอกไปแต่ต้นครับ ว่าในปีสองปีนี้ การ์ดตัวนี้จะเริ่มเข้ามา
มีบทบาทครับ เมื่อ software ต่างๆเริ่มรองรับความสามารถตรงนี้ได้ ตอน
นั้นความจำ้เป็นก็จะเริ่มเพิ่มขึ้นมา และราคาของผลิตภัณฑ์ลดลงมาด้วย
นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ เพราะนี่เป็นนิมิตหมายที่จะบอกว่า ในอนาคตอัน
ใกล้นิดเดียวนี้ เราจะมีเกมที่พัฒนาไปยังอีกขั้นของประสบการณ์การเล่นครับ
จำ 3dfx'voodoo ได้มั้ยครับ? เค้าคือผู้ปฏิบัติวงการเกมด้วย การนำเสนอการ์ด
จอแบบ 3 มิติ ทำให้เราได้เล่นเกมที่เรนเดอร์ด้วย 3 มิติกัน ซึ่งได้กลายเป็น
มาตรฐานของอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบันไปแล้ว (แม้ว่า 3dfx จะตายไปจาก
ตลาดนานแล้วก็ตาม) Aeiea'Physx ก็เช่นเดียวกันครับ จะกลายเป็นผู้เปิด
ประตูสู่การปฏิวัติวงการเกมและงานapplication สมัยใหม่ให้ยิ่งสมจริงมากขึ้น
ครับ ขอบคุณที่อ่าน...

Tuesday, July 25, 2006

Video Converting via FPGA...
Is this the one I'm working for?

Well, Today I have pack some of a really powerful digital
video theory straight to my head. Such a really good article
to study here. The good thing is, I'm study it by myself.
The bad one is, It's doesn't look like a popular article in this
country here. I don't know yet too, Because today I have
been confirmed by the thesis I'm currently reading on now
that it is a really complicated stuff!! And I want to know
something related to this work too. That is!

*What kind of digital signal this project want be to put out?

If I don't know what type of work I'm gonna doing here,
I guess I gonna have a really hard time doing this work for sure!

Monday, July 24, 2006

หายหัวไปนานเลยครับ เพราะเน็ตลาดกระบังมีปัญหากับ Blogger.com
ขึ้นมาซะงั้น ผมเลยไม่ได้มาอัพเลย...

คือมีเรื่องจะมาแฉครับ คาดว่าบางท่่านน่าจะได้รับเมล์เรื่องนี้ไปจากผม
แล้ว ผมใช้เวลาตรองอยู่นานพอตัวเหมือนกัน เพราะการกระทำนี้เข้าข่าย
"ทำลายชื่อเสียง"ของเพื่อนกันเลยทีเดียว แต่เพื่อจรรยาบรรณ ผมจึง
นำออกมาแฉครับ เป็นเรื่องของเพื่อนปอ ที่ผมประสบพบมาเมื่อวันศุกร์
ที่ผ่านมาครับ เชิญอ่านได้ครับ